มีการแชร์ส่งต่อกันเรื่องการรักษาภาวะหูไม่ได้ยินในผู้สูงอายุ ด้วยการใช้กระเทียม + น้ำมันมะกอก โดยระบุว่าได้ผลดีถึง 97%
ถ้าจริงก็คงเป็นเรื่องดี เพราะของพวกนี้ราคาไม่แพง แต่ว่าเป็นอย่างไรคงต้องไปดูกัน
1. หูไม่ได้ยินในผู้สูงอายุ : การสูญเสียการได้ยินในผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่มักเกิดจากการเสื่อมลงของเซลล์ในหูชั้นใน และก็อาจจะมีสาเหตุอื่นๆเช่น แก้วหูทะลุ ขี้หูตัน ความผิดปกติที่เส้นประสาท ฯลฯ
ซึ่งในแชร์นี้ ไม่บอกตรงๆว่าเป็นโรคใด มีแต่พูดอ้อมๆคลุมเครือว่าปัญหาการได้ยินที่พบได้บ่อยเมื่ออายุเยอะขึ้น ... ซึ่งแปลได้ว่าหมายถึงโรคการเสื่อมของเซลล์ในหูชั้นใน
2. ข้อความนี้เป็นข้อความที่แปลมาจากบทความต่างประเทศ
ซึ่งมี 3 version
เวอร์ชั่นที่แปลมาเป็นตัวสั้นที่สุด คือ
" 2 Drops of This In Your Ears and 97% of Your Hearing Recovers! "
มีตัวที่ยาวๆกว่าที่คล้ายๆกันคือ
"These TWO Ingredients Can Restore Hearing Loss"
ซึ่งใช้สูตร น้ำมันมะกอก + กระเทียม + น้ำหัวหอม
3. ในบทความ มีการอ้างงานวิจัยในปี 2012 ว่ามีการใช้น้ำหัวหอมสกัดรักษาภาวะเซลล์หูชั้นในเสียหายจากแรงระเบิด
แต่เมื่อเข้าไปดูกลายเป็นว่าไม่จริง ... เพราะงานวิจัยนั้นใช้สารต้านอนุมูลอิสระ 2 ชนิด "ฉีด" เข้าไปในร่างกาย และมีสารตัวนึงที่มีSulfurเป็นส่วนประกอบ ซึ่งคล้ายกับสารประกอบSulfur ในพืชกลุ่มหัวหอมและกระเทียม
สรุปแล้ว
- ไม่มีหลักฐานปรากฎว่าการใช้กระเทียม + น้ำมันมะกอก รักษาภาวะหูหนวกได้
- ที่มาต้นทาง เชื่อถือไม่ได้ ตัวต้นฉบับไม่มีการอ้างอิง และตัวที่คล้ายๆกัน ก็อ้างอิงแบบมั่วๆ
- ในกรณีที่มีสูญเสียการได้ยิน ควรไปพบแพทย์ก่อน เพราะบางโรคต้องมีการตรวจละเอียด บางโรคต้องรักษาให้เร็ว การไปมัวหยอดน้ำมันนอกจากจะไม่ได้รักษาแล้ว เวลาไปตรวจยังรบกวนการตรวจวินิจฉัยให้ยากขึ้นไปอีก ... สมมุติแก้วหูทะลุ ส่องไปเจอแต่น้ำมันก็ตรวจไม่ได้ ... จะไปตรวจการได้ยิน น้ำมันเต็มหู หูอื้อ ตรวจไม่ได้อีก
ปล. สูตรกระเทียม + น้ำมันมะกอก จริงๆมีที่ใช้ในการรักษาพื้นบ้าน คือใช้รักษาภาวะติดเชื้อในหูชั้นนอก กับแก้ขี้หูตัน ... แต่ไม่มีที่ใช้ในการรักษาภาวะเส้นประสาทหรือเซลล์หูชั้นในเสื่อม
ปอ.
- อันที่แชร์กันในต่างประเทศ https://www.powerofpositivity.com/restore-hearing-loss/
- อันที่แชร์ในต่างประเทศ http://www.cuisineandhealth.com/2-drops-ears-97-hearing-recovers-even-old-people-80-90-driven-crazy-simple-natural-remedy-2/
- งานวิจัยที่เจอเอาไปอ้าง(แบบมั่วๆ) http://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S0378595512000238
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น